กว่าจะผ่านมรสุมแห่งชีวิตสู่พระเมตตาที่ ไม่เคยจางหายจากพระวรชายาสู่พระแม่ของปวง ชนสวัสดีครับยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง Infinity F ครับทุกท่านประวัติศาสตร์ ชาติไทยเรามักจารึกเรื่องราวของผู้ที่ กำหนดชะตาชีวิตของแผ่นดินไว้แต่ว่ายังมี อีกเรื่องเล่าหนึ่งครับที่ถูกเขียนขึ้น ด้วยน้ำตาหยาดเหงื่อและหัวใจเรื่องราวของ การต่อสู้ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในสนามรบแต่ เกิดขึ้นในห้องทรงงานที่เงียบงันและในหัว ใจของผู้หญิงคนหนึ่งท่านกำลังจะได้ชม เรื่องราวที่ไม่เคยถูกเล่าอย่างละเอียด ที่ไหนมาก่อนเรื่องราวที่พิสูจน์ว่าการ สู้ชีวิตที่แท้จริงไม่ได้อยู่แค่ใน
สมรภูมิของสามัญชนแต่เกิดขึ้นในศูนย์กลาง แห่งความสง่างามของราชวงศ์จักรีใช่ครับ นี่คือการเจาะลึกชีวประวัติของพระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมศวลีกรมหมื่น สุทธนารีนาถในคลิปนี้ผมจะพาทุกท่านไปติด ตามพระชนีพที่เต็มไปด้วยความผันผวนและ วิกฤตการแห่งหัวใจครับหลังจากที่ฟังคลิป นี้จบท่านจะได้เห็นว่าชีวิตที่เริ่มต้น อย่างเรียบง่ายและเป็นอิสระก่อนที่โชค ชะตาจะพลิกผันสู่การเป็นพระวรชายาที่ต้อง แบกรับความคาดหวังของคนทั้งแผ่นดินได้ อย่างไรเท่านั้นยังไม่พอผมยังจะเจาะลึก ว่าพระองค์ท่านต้องเจออะไรบ้างพระองค์ ต้องเผชิญหน้ากับความกดดันทางจิตใจสูงสุด
ที่นำมาซึ่งความสูญเสียอันใหญ่หลวงในฐานะ พระมารดาและที่สำคัญที่สุดคือการผ่าน วิกฤตการเปลี่ยนผ่านสถานะครั้ง ประวัติศาสตร์ในปี 2534 ซึ่งทำให้พระอิสริยยศและตำแหน่งของพระ องค์ท่านต้องมีการเปลี่ยนผันตลอดเวลาจาก หม่อมหลวงโสมสวลีสู่พระวรชายาและจากพระ วรชายาสู่พระวรราชาที่นัดดาม่าตุที่ยืน หยัดอยู่ด้วยพันธกิจแห่งความเป็นแม่และ พระเมตตาที่ไม่เคยสิ้นสุดครับก่อนจะไปรับ ชมและรับฟังกันช่วยกดไลก์วีดีโอนี้คนละ 1 ไลก์และกดติดตามช่อง Infinity Fลไว้เพื่อ เป็นกำลังใจให้ทีมงานของเราทุกคนด้วยนะ ครับถ้าพร้อมแล้วเชิญรับชมและรับฟังกัน
ได้เลยครับกับเรื่องเล่าพระองค์เจ้า โสมสวลีน้ำครึ่งพระจันทร์แห่งการสู้ชีวิต ตอนที่ 1 ปฐมบทหม่อมหลวงโสมสวลีเรื่องราว อันยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยการสู้ชีวิตของ พระองค์ท่านนั้นเริ่มต้นขึ้นในดินแดนอัน ไกลโพ้นครับคือที่โรงพยาบาล Gu Hospital ณกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษในปีพุทธศักราช 2500 ขณะนั้นหม่อมราชวงศ์อดุลกิจ กิตติยากรคือพระบิดาทรงอยู่ระหว่างการ ศึกษาวิชากฎหมายอยู่ที่นั่นพระบิดาทรงมี ฐานะที่สำคัญยิ่งในราชวงศ์จักรีนั่นคือ ทรงเป็นพระเชษฐาหรือพี่ชายในสมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์พระบรมราชนีนาถพระ บรมราชชนนีพันปีหลวงพระมารดาคือท่านผู้
หญิงพันสวลีกิตติยากรเดิมคือหม่อมเจ้า พันวลียุคล ทุกท่านครับด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิด นี้เองทำให้พระองค์ท่านมีสถานะเป็นพระ ภาติยะหลานในสมเด็จพระพันปีหลวงซึ่งหมาย ถึงความผูกพันที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์จักรี ตั้งแต่แรกประสูติครับโดยหม่อมหลวง โสมสวลีทรงเป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่และทรง มีพระคณิษฐาน้องสาวเพียงพระองค์เดียวคือ หม่อมหลวงสราลีกิตติยากรครับแม้ว่าจะทรง อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับศูนย์กลางแห่ง อำนาจและความสง่างามที่สุดแต่ชีวิตในช่วง แรกของพระองค์กลับถูกกำหนดให้ดำเนินไป อย่างเรียบง่ายและเป็นสามัญชนมากที่สุด เพื่อเป็นการวางรากฐานชีวิตที่มั่นคงต่อ
มาเมื่อทรงเจริญพระชันษาได้ 2 ปีพระอง องค์ท่านก็โดยเสด็จพระบิดาและพระมารดา ท่านผู้หญิงพันสวลีกลับสู่ประเทศไทยและ ได้พำนักอยู่ที่วังเทเวชดังนั้นวังนี้นอก จากจะเป็นที่ประทับแล้วยังเป็นโรงเรียน แห่งการใช้ชีวิตครับเพราะว่าการเลี้ยงดู ของพระบิดาและพระมารดานั้นทรงเข้มงวดใน ด้านการสร้างวินัยและความรับผิดชอบส่วน ตัวอย่างยิ่งยวดครับทุกท่านหม่อมหลวง โสมสวลีและพระคณิษฐาทรงได้รับการปลูกฝัง ให้ลงมือทำด้วยพระองค์เองในทุกเรื่องตั้ง แต่การจัดที่บรรทมให้เรียบร้อยไปจนถึงการ กวาดบ้านถูพื้นปลูกผักและตัดหญ้าการใช้ ชีวิตเช่นนี้ได้สร้างรากฐานของความติดดิน
และความมุ่งมั่นในการทำงานหนักให้กับพระ องค์ครับแม้จะมีเส้นทางการศึกษาที่ต้อง ย้ายโรงเรียนหลายครั้งตามพระกรณียกิจของ พระบิดาแต่สิ่งที่อยู่กับพระองค์เสมอคือ ความรักในศิลปะภาษาและการงานฝีมือโดย เฉพาะการประกอบอาหารครับจุดที่น่าสนใจและ ถือเป็นการแสดงความกล้าหาญครั้งแรกใน ชีวิตของท่านเกิดขึ้นในช่วงวัยเยาวเมื่อ ทรงสำเร็จการศึกษาในระดับมศ. 2 หรือ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ครับพระองค์ทรงตัดสิน ใจทำในสิ่งที่ถือว่าท้าทายขนบธรรมเนียมใน เวลานั้นอย่างมากโดยทรงกราบทูลขอพระบิดา และพระมารดาเพื่อขอลาออกจากการศึกษาตาม หลักสูตรและเลือกไปศึกษาวิชาที่พระองค์
ท่านโปรดปรานโดยเฉพาะด้านการทำพระกัยาหาร และงานฝีมือแทนนี่คือการตัดสินใจครั้ง สำคัญที่เลือกเสียงของหัวใจเหนือเส้นทาง ที่สังคมขีดไว้ซึ่งทำให้เราเห็นถึงพระอุป อุปนิสัยที่เด็ดเดี่ยวตั้งแต่ยังทรง พระเยาแต่แล้วโชคชะตาแห่งราชวงศ์ก็เข้ามา เปลี่ยนผันเส้นทางชีวิตทั้งหมดอย่างไม่ คาดคิดครับในฐานะพระภาติยะที่ใกล้ชิดกับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชนีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทำให้หม่อมหลวง โสมสวลีได้ทรงมีโอกาสใกล้ชิดกับสมเด็จพระ บรมโอราสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามกุฎราชกุมาร ความผูกผูกพันดังกล่าวนี้เองได้นำไปสู่
การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดใน ประวัติศาสตร์ชาติไทยเราครับในวันที่ 17 ธันวาคมพ.ศ. 2513 ท่ามการความตื่นเต้นและการจับจ้องของคน ทั้งประเทศพิธีมั่นก็ถูกจัดขึ้นอย่างเป็น ทางการณพระตำหนักจิตตลดาจิตตระลดาระโหฐาน หม่อมหลวงโสมสวลีผู้ที่รักการถักนิดติ้ง และทำอาหารกำลังจะก้าวข้ามสถานะเดิมเข้า สู่บทบาทที่สูงส่งในฐานะพระวรชายาครับต่อ มาในวันที่ 3 มกราคมพ.ศ. 2520 พระราชพิธี อภิเษกสมรสได้จัดขึ้นและพระองค์ได้รับการ สถาปนาพระอิสริยศเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระ องค์เจ้าโสมสวลีพระวรชายาในสมเด็จพระ บรมโอราสาธิราช สยามกุฎราชกุมารทันทีครับทุกท่านครับการ
ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนี้คือการเข้าสู่ศูนย์ กลางแห่งความรับผิดชอบอันหนักอึ้งอย่าง สมบูรณ์ความสง่างามและเกียรติยศที่แวด ล้อมอยู่ได้แฝงเร้นความกดดันทางจิตใจ มหาศาลซึ่งเป็นเส้นด้ายอันเปราะบางที่ พร้อมจะฉีกขาดได้ทุกเมื่อนี่แหละครับคือ จุดเริ่มต้นของดราม่าและการสู้ชีวิตครั้ง ใหญ่ที่สุดในพระชนีของพระองค์ท่านและหลัง จากนี้จะเป็นเรื่องของการต่อสู้ที่แท้ จริงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วครับตอนที่ 2 พระวรชายาบนเส้นด้ายแห่งความกดดันเมื่อ พระราชพิธีอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่ได้ผ่าน พ้นไปแล้วความตื่นตื่นเต้นแห่งการเริ่ม ต้นก็ถูกแทนที่ด้วยความเป็นจริงที่หนัก
อึ้งอย่างรวดเร็วครับนั่นก็คือจากหม่อม หลวงโสมสวลีผู้เคยมีอิสระในการเลือกวิชา เรียนและทำกิจวัตรประจำวันด้วยพระองค์เอง บัดนี้พระองค์ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทพระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรชายา ซึ่งเป็นพระอิสริยยศที่สูงส่งและมาพร้อม กับธรรมเนียมปฏิบัติอันเคร่งครัดและ ละเอียดอ่อนยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัวครับ ทุกท่านชีวิตหลังการอภิเษกสมรสนั้นจึง เปรียบเสมือนการเดินอยู่บนเส้นด้ายแห่ง ความกดดันที่มองไม่เห็นและมีความเปราะบาง อย่างยิ่งครับเพราะว่าทุกพระอิริยาบถทุก คำตรัสและทุกการปรากฏพระองค์นั้นล้วนอยู่ ภายใต้ความคาดหวังสูงสุดของราชวงศ์และปวง
ชนชาวไทยครับความกดดันนี้ไม่เพียงแต่เป็น เรื่องของการวางพระองค์ให้สง่างามตามแบบ แผนเท่านั้นแต่ยังรวมถึงพันธกิจอันสำคัญ ยิ่งในฐานะพระวรชายานั่นคือการถวายความดู แลและการทำรงไว้ซึ่งความมั่นคงแห่ง ราชบัลลังก์สื่อไปทุกท่านครับแม้ว่าพระ องค์จะทรงเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้ง ใหญ่นี้แต่พระองค์ก็ทรงมุ่งมั่นและทุ่มเท อย่างหนักเพื่อปราบพระองค์ให้เข้ากับบท บาทใหม่นี้อย่างสมบูรณ์ทั้งนี้ทรงเรียน รู้การถวายงานในโครงการต่างๆที่ได้รับพระ ราชทานมาอย่างรวดเร็วทรงติดตามพระบาท สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงดำรง พระอิสริยยศในเวลานั้นไปในพระราชกรณียกิจ
น้อยใหญ่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศการถวาย งานแต่ละครั้งนั้นก็เต็มไปด้วยความ ละเอียดรอบคอบและเป็นเครื่องยืนยันถึง ความเพียรพยายามของพระองค์ในการเป็นที่ พึ่งให้กับประชาชนอย่างแท้จริงครับแต่ แล้วท่ามกลางภารกิจที่ถาโทมและความกดดัน ที่สะสมอยู่นั้นก็มีข่าวอันน่ายินดีที่ สุดมาถึงครับทุกท่านนั่นคือการตั้งพระ ครรภ์ครั้งแรกข่าวนี้ได้นำความหวังและ ความสุขมาสู่ราชวงศ์และปวงชนอย่างท่วมทน สมการรอคอยอย่างไรก็ตามในอีกด้านหนึ่ง ข่าวนี้ก็ยกระดับความกดดันทางจิตใจของพระ องค์ขึ้นสู่จุดที่สูงที่สุดทันทีครับ เนื่องจากการตั้งพระครรภ์นี้ไม่ใช่เพียง
เรื่องส่วนพระองค์เท่านั้นแต่กลับเป็น เรื่องของทายาทแห่งราชบัลลังก์ที่ทั่ว ทั้งแผ่นดินต่างเฝ้ารอคอยและจับตามอง อย่างใกล้ชิดความรับผิดชอบที่ต้องดูแลพระ วรกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ท่ามกลางกำหนดการ ถวายงานที่ยังต้องดำเนินต่อไปอย่างต่อ เนื่องประกอบกับความเครียดที่เกิดจากสภาพ แวดล้อมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังได้เริ่ม บั่นทอนสุขภาพพระอนามัยและจิตใจของพระ องค์ท่านอย่างเงียบๆทีละน้อยความรู้สึก ที่ต้องแบกรับความคาดหวังของคนทั้งชาติ เพียงลำพังการขาดอิสระส่วนตัวในการจัดการ ความเครียดและพระอาการต่างๆในช่วงตั้งพระ ครันได้ผสมรวมกันจนกลายเป็นมรสุมทาง
อารมณ์ที่ไม่มีใครมองเห็นหรือสัมผัสได้ จากภายนอกครับดังนั้นเส้นได้ที่เคยตึง อยู่แล้วบัดนี้กำลังถูกดึงจนใกล้จะขาด เต็มทีแล้วครับทุกท่านและเรื่องน่าเศร้า ที่ความกดดันอันหนักอึ้งนี้เองครับที่ กำลังจะนำพาไปสู่วิกฤตการครั้งใหญ่ที่สุด ในชีวิตอันเป็นความสูญเสียที่พลิกผันเส้น ทางของพระองค์ท่านไปตลอดกาลอย่างไม่อาจ หลีกเลี่ยงได้ครับตอนที่ 3 วิกฤตการแห่ง หัวใจและความสูญเสียจากการตั้งพระครัน ครั้งแรกของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า โสมสวลีพระวรชายานั้นนับว่าเป็นข่าวดีที่ นำความปลื้มปีติมาสู่ราชวงศ์และปวงชนชาว ไทยอย่างท่วมทนแต่เบื้องหลังข่าวดีนั้น
คือการต่อสู้ทางจิตใจที่โดดเดี่ยวของพระ องค์ท่านอย่างแท้จริงครับเพราะว่าความกด ดันที่สั่งสมมาจากบทบาทใหม่ที่ต้อง สมบูรณ์แบบไร้ทิติการปรับตัวให้เข้ากับ ธรรมเนียมที่เข้มงวดและความคาดหวังของคน ทั้งชาติในฐานะผู้ที่จะให้กำเนิดทายาท แห่งราชบัลลังก์ได้กัดกินสุขภาพพระอนามัย ของพระองค์อย่างเงียบเชียบและรุนแรงทุก พระอิริยาบถต้องระมัดระวังทุกการเคลื่อน ไหวถูกจับจ้องทามกลางภาระงานที่ยังคงมี อยู่ทำให้ความเครียดทันจิตใจได้ภูมิขึ้น สู่จุดสูงสุดอย่างมิอาจควบคุมได้ในที่สุด ครับทุกท่านครับผลจากความเครียดส่วนพระ องค์ที่รุนแรงนี้เองได้นำมาซึ่ง
โศกนาฏกรรมอันเป็นความสูงเสียครั้งใหญ่ ที่สุดในชีวิตของพระองค์ท่านครับนั่นคือ พระองค์ทรงแท้งพระโอรสขณะที่พระครรภ์มี อายุได้ประมาณ 4 เดือนการสูญเสียในครั้ง นี้จึงไม่เพียงแต่เป็นความเจ็บปวดทางกาย เท่านั้นหากแต่ยังเป็นความเจ็บปวดทางจิต ใจที่ทับถมอย่างแสนสาหัสและยากจะเยียวยา ครับลองจินตนาการถึงความรู้สึกของพระองค์ ท่านในเวลานั้นดูนะครับการสูญเสียที่เกิด ขึ้นภายใต้แสงสว่างที่ส่องมาอย่างเจิดจ้า และไม่สามารถหลบหนีได้ความเศร้าโศกเสียใจ ต้องถูกเก็บซ่อนไว้เบื้องหลังพระพักที่ เข้มแข็งและสง่างามอยู่เสมอนี่คือดราม่า แห่งความโดดเดี่ยวที่พระองค์ต้องเผชิญไม่
มีพื้นที่ให้แสดงความอ่อนแอต่อหน้า สาธารณชนเพราะหน้าที่และความรับผิดชอบใน ฐานะพระวรชายายังคงอยู่และต้องดำเนินต่อ ไปช่วงเวลานี้เองครับที่พระองค์ท่านต้อง ใช้ความมุ่งมั่นแห่งการสู้ชีวิตที่แท้ จริงเพื่อกอบกู้จิตใจที่บอบช้ำให้กลับคืน มาอย่างช้าๆดังนั้นพระองค์ทรงหันไปหางาน ฝีมือและการสร้างสรรค์ที่พระองค์โปรดมา ตั้งแต่ยาวไวครับไม่ว่าจะเป็นการถักนติ้ง หรือการบรรเลงเปียโนและกีตาร์สิ่งเหล่า นี้ได้กลายเป็นเครื่องมือในการเยียวยาและ เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ทรงสามารถปลดปล่อย ความรู้สึกที่อัดอั้นและค้นหาความสงบภาย ในได้อีกครั้งเพราะว่างานอดิเรกเหล่านี้
ไม่ใช่แค่การพักผ่อนธรรมดาแต่เป็นการยืน ยันว่าหัวใจของพระองค์ท่านยังคงเปี่ยม ด้วยพลังในการสร้างสรรค์และดำเนินชีวิต ต่อไปได้แม้ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสีย ที่หนักหน่วงก็ตามพระองค์ทรงใช้ความ พยายามอย่างยิ่งหยดในการก้าวข้ามช่วงเวลา แห่งความทุกข์นี้และกลับมาเข้มแข็งอีก ครั้งเพื่อทำตามพระราชภารกิจอันสำคัญที่ ยังรออยู่ครับและนี่เองความสูญเสียใน ครั้งนี้จึงได้หล่อหลอมให้พระองค์ท่านมี ความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริงและ เป็นบทเรียงอันล้ำค่าที่เตรียมพระองค์ให้ พร้อมสำหรับการแบกรับภารกิจแห่งความเป็น แม่ที่จะมาถึงในไม่ช้าอันเป็นบทบาทสำคัญ
ที่จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของพระองค์ไป ตลอดกาลครับตอนที่ 4 กำเนิดเจ้าฟ้าคติไม้ เรียวของแม่หลังจากวิกฤตการณ์แห่งความสูญ เสียผ่านไปแล้วนั้นความเศร้าโศกเสียใจก็ ได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความมุ่ง มั่นที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งครับ และไม่นานนักข่าวอันเป็นมงคลที่สุดก็ได้ กลับมาสู่ราชสำนักอีกครั้งนั่นคือการตั้ง พระครรภ์ครั้งที่ 2 แต่แน่นอนครับว่าการ ตั้งพระครรภ์ครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้ความ รู้สึกที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงครับ เพราะความตื่นเต้นได้ถูกผสมผสานเข้ากับ ความระมัดระวังสูงสุดและความกังวลอย่าง ลึกซึ้งถึงเหตุการณ์อันน่าเศร้าที่เคย
เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ตลอดระยะเวลาการตั้ง พระครรภ์พระองค์ท่านจึงต้องทรงดำเนิน ชีวิตอย่างรอบคอบยิ่งกว่าเดิมท่ามกลาง ความกดดันที่ยังคงมีอยู่และไม่เคยหายไป ความเครียดทางจิตใจที่เคยเป็นสาเหตุของ ความสูญเสียก็ได้กลับมาคุกคามอีกครั้งแม้ ว่าพระองค์จะทรงพยายามประคับประคองพระ วรกายและพระทัยอย่างเต็มที่แต่ก็มีอยู่ ช่วงหนึ่งที่พระอาการเข้าขั้นวิกฤตทรงมี พระอาการเกือบคลอดก่อนกำหนดขณะที่มีอายุ พระครันเพียง 6 เดือนเท่านั้นทำให้แพทย์ ต้องถวายการดูแลอย่างใกล้ชิดต้องทรงบรรทม พักผ่อนและถวายพระโอสถอย่างต่อเนื่อง เพื่อประคองการตั้งพระครรภ์ให้ดำเนินต่อ
ไปได้อย่างปลอดภัยที่สุดนี่คือการต่อสู้ เพื่อชีวิตที่ 2 อย่างแท้จริงครับเป็น ช่วงเวลาที่พระองค์ท่านต้องพึ่งพาความ เข้มแข็งทางจิตใจที่หล่อหลอมมาจากการผ่าน พ้นความทุกข์ยากครั้งก่อนอย่างถึงที่สุด และในที่สุดการต่อสู้ก็จบลงด้วยความ สำเร็จอันยิ่งใหญ่ครับทุกท่านครับในที่ สุดวันที่ 7 ธันวาคมพ.ศ. 2521 พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระ วรชายาก็ทรงมีพระประสูติการพระธิดาคือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิตติยาภา นเรณธิราเทพยวดีกรมหลวงราชสารณีสิริพัฒน์ มหาวัชรราชธิดา นับเป็นความปีติยินดีอันสูงสุดของแผ่นดิน ครับพระประสูติการในครั้งนี้มิใช่แค่การ
มีพระธิดาเท่านั้นแต่ยังเป็นชัยชนะเหนือ ความเครียดและความสูญเสียที่พระองค์ท่าน ได้เคยเผชิญมาเป็นการเติมเต็มบทบาทที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดของสตรีที่เรียกว่าแม่ได้ อย่างสมบูรณ์แม้ว่าพระองค์จะทรงเข้าสู่บท บาทของการเลี้ยงดูพระธิดาพระองค์ท่านทรง เผยให้เห็นถึงความเป็นพระมารดาที่เข้ม แข็งและมีเหตุผลอย่างชัดเจนครับทรงเคยรับ สั่งถึงหลักการเลี้ยงดูว่าไม่หวงมากนัก แต่มีความเป็นห่วงมากกว่าซึ่งครอบคลุม ทั้งในเรื่องความประพฤติและการวางพระองค์ และคำสอนที่ทรงเน้นย้ำอยู่เสมอคือให้รู้ จักช่วยเหลือผู้อื่นนอกจากช่วยเหลือตัว เองแล้วก็ต้องช่วยเหลือผู้อื่นด้วยมี
เมตตานี่คือการถ่ายทอดปรัชญาแห่งการเป็น ผู้ให้จากพระองค์เองสู่พระธิดาอย่างชัด เจนและต่อเนื่องครับแต่สิ่งที่สะท้อนความ เป็นแม่ที่เด็ดขาดและเปี่ยมด้วยความรัก ที่สุดคือการใช้คติเลี้ยงวัวให้ผูกรักลูก ต้องตีทรงเคยเล่าถึงเหตุการณ์ที่แสดงให้ เห็นถึงความเมตตาที่มาพร้อมกับการลงโทษ ที่ทรงคุณค่าครับครั้งหนึ่งเมื่อสมเด็จ เจ้าฟ้ากรมหลวงราชสารณีสิริพัฒน์ขณะศึกษา อยู่ที่โรงเรียนราชินีทรงนำวงเวียนไปทิ่ม ขาเพื่อนซึ่งถือเป็นความผิดที่ต้องได้รับ การแก้ไขอย่างเด็ดขาดดังนั้นพระองค์เจ้า โสมศวลีจึงทรงลงโทษพระธิดาด้วยก้านมะยม เพื่อสอนให้ทรงรู้ว่าเพื่อนก็รู้สึกเจ็บ
เช่นกันฉากนี้คือภาพจำที่ทรงพลังที่สุด ของการเป็นแม่ที่สอนด้วยความรักและเหตุผล นั่นคือมิใช่เพียงแค่รักและปกป้องอย่าง ไม่มีเงื่อนไขแต่คือการปลูกฝังความเห็นอก เห็นใจและความเมตตาซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญ ของพระจริยวของพระธิดาในอนาคตครับพระองค์ ท่านได้ก้าวผ่านวิกฤตการส่วนตัวมาแล้วและ บัดนี้ทรงค้นพบความหมายสูงสุดในบทบาทของ การเป็นแม่ผู้สอนให้ลูกรู้จักความเมตตา ก่อนที่พระพระองค์ท่านจะก้าวเข้าสู่การ เป็นผู้ให้แก่ปวงชนอย่างเต็มที่ในพระ ราชภารกิจอันสำคัญต่อไปครับตอนที่ 5 ใน ร่มเนาของนักสู้ภารกิจคู่แผ่นดินหลังจาก การประสูติพระธิดาอันเป็นมงคลและการก้าว
ผ่านวิกฤตทางอารมณ์ครั้งใหญ่มาได้แล้ว นั้นพระองค์ท่านได้ทรงแปรเปลี่ยนความ ทุกข์ระทมให้กลายเป็นพลังบวกครับดังนั้น พระองค์จึงทรงมุ่งเน้นพระกำลังไปที่พระ กรณียกิจ และการถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทพระ บาทสมเด็จพระบรมชนาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตและสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนี พันปีหลวงอย่างแข็งขันและต่อเนื่องช่วง เวลานี้จึงนับเป็นบทพิสูจน์ถึงความทรหดอด ทนและการสู้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งครับ นั่นคือการทำงานหนักเพื่อประชา ในพื้นที่ธุระกันนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งการ เข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการที่ต้องใช้ทั้ง
แรงกายและแรงใจอย่างที่สุดเพื่อช่วยเหลือ ผู้คนอย่างเช่นพระองค์ท่านทรงตามเสด็จไป ถวายงานในหน่วยแพทย์พระราชทานซึ่งเป็น ภารกิจที่ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ทางกายอย่างแท้จริงครับพระองค์ท่านเคยรับ สั่งถึงประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นว่าเคยลง หน่วยแพทย์หนักสุดๆดูคนไข้ 700 คนต่อวัน ตัวเลข 700 คนต่อวันนี้แสดงให้เห็นถึง ความทุ่มเทเกินกว่ากำลังของบุคคลทั่วไป ที่ต้องทรงใช้สมาธิความเมตตาและความอดทน ในการดูแลผู้คนอย่างไม่รู้จักเหน็ด เหนื่อยการถวายงานเช่นนี้เองที่ทำให้พระ องค์ท่านได้เรียนรู้ถึงแก่นแท้ของความรัก ที่รัชกาลที่ 9 ทรงมีต่อพสกนิกรและทรงรับ
เอาปรัชญาการให้แล้วรักประชา มาเป็นหลักในการดำเนินพระชนีพอย่างลึก ซึ้งนอกจากงานด้านสาธารณสุขแล้วพระองค์ ท่านยังทรงมีบทบาทสำคัญในงานศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้แก่ประชา ชนผู้ยากร้ายในชนบทครับแต่ทว่าการทำงาน ของพระองค์ท่านไม่ใช่แค่การไปตรวจเยี่ยม ตามพิธีการเท่านั้นแต่ยังลงมือปฏิบัติ จริงทรงเคยรับสั่งอย่างตรงไปตรงมาว่าเรา ก็ต้องฝึกสารกระเป๋าเองด้วยแล้วก็ไปสอน ชาวบ้านเองฉากเหล่านี้เองครับที่สะท้อน ถึงพระอุปนิสัยที่ติดดินและรักการลงมือทำ มาตั้งแต่ธงพระเยาซึ่งสอดคล้องกับการที่ เคยปลูกผักและตัดหญ้าด้วยพระองค์เองณ
วังเทเวชครับพระองค์ท่านทรงใช้พระองค์เอง เป็นแบบอย่างทรงฝึกฝนทักษะงานฝีมือที่ส่ง โปรดซึ่งสอดคล้องกับงานอดิเรกในตอนที่ 3 เพื่อถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ชาวบ้านอย่าง แท้จริงการลงพื้นที่ด้วยพระองค์เองการ คลุกคลีกับชาวบ้านทำให้พระองค์ท่านเป็น นักสู้เพื่อคุณภาพชีวิตที่เข้าใจปัญหาของ ผู้คนอย่างลึกซึ้งและเข้าถึงได้การถวาย งานในร่มเงาวของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระ องค์ในช่วงนี้ได้หล่อหลอมให้พระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีมีความแข็ง แกร่งและค้นพบพันธกิจแห่งการเป็นผู้ให้ ที่สมบูรณ์แบบทว่าความแข็งแกร่งภายนอกที่ ทรงแสดงออกมาในการทำงานหนักนั้นกำลังจะ
ถูกทดสอบอีกครั้งด้วยวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ที่สุดที่เกี่ยวกับสถานะและบทบาทใน ราชวงศ์ของพระองค์เพราะไม่ว่าพระองค์จะ ทรงทุ่มเทและถวายงานหนักเพื่อแผ่นดิน เพียงใดโชคชะตาของชีวิตส่วนพระองค์ก็ยัง คงเป็นเส้นได้ที่รอวันถูกดึงให้ขาดออกจาก กันและนั่นคือวิกฤตการที่ไม่มีใครคาดคิด ซึ่งกำลังจะมาถึงครับตอนที่ 6 จุดสูงสุด แห่งวิกฤตเมื่อโชคชะตาเปลี่ยนบทบาทแม้ว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระ วรชายาจะทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อถวายงาน รับใช้แผ่นดินอย่างไม่ย่อท้อและบทบาทใน ฐานะพระมารดาของพระธิดาก็เป็นไปอย่าง สมบูรณ์แบบแต่ทว่าชีวิตส่วนพระองค์ที่
อยู่ภายใต้ความกดดันมาอย่างยาวนานก็มิอาจ คงอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ตลอดไปความขัดแย้ง ที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆในชีวิตส่วนพระ องค์ได้เดินทางมาถึงจุดแตกหักในปี พุทธศักราช 2534 ครับนับเป็นจุดสูงสุดของวิกฤตในพระชนีพ เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานะที่ต้องอาศัยความ เข้มแข็งทางจิตใจสูงสุดในการก้าวผ่านไป ให้ได้เพราะว่าการสิ้นสุดความสัมพันธ์ใน ฐานะพระวรชายาเป็นการเผชิญหน้ากับความสูญ เสียในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากการสูญเสีย พระโอรสในตอนที่ 3 อย่างสิ้นเชิงเนื่อง จากนี่คือการสูญเสียบทบาทในความสัมพันธ์ ส่วนตัวและตำแหน่งที่เคยดำรงอยู่ท่ามกลาง
สายตาของสาธารณชนที่จับจ้องไปทั่วประเทศ เราอาจลองจินตนาการถึงดราม่าแห่งการไตร่ ตรองในช่วงเวลานั้นดูนะครับพระองค์ท่าน ต้องทรงเก็บซ่อนความรู้สึกส่วนตัวทั้งหมด ไว้เบื้องหลังความสง่างามตามพระอิสริยยศ เพื่อเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่สุดในชีวิตการสูญเสียความสัมพันธ์ย่อม เป็นความทุกข์ระทมอย่างยิ่ง แต่หน้าที่ในฐานะพระมารดาและสมาชิก ราชวงศ์ผู้ใหญ่ยังคงอยู่และสำคัญยิ่งกว่า สิ่งใดอย่างไรก็ตามโชคชะตาก็แสดงให้เห็น ถึงความผูกพันและพระเมตตาที่ไม่เคยจางหาย ครับเพราะภายหลังเหตุการณ์นี้พระบาท สมเด็จพระบรมชนาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราชบรมนาถบพิตรทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้โดยมีพระกรุณา โปรดเกล้าให้ประกาศเฉลิมพระนามพระองค์ ท่านเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า โสมสวลีพระวรราชาธีนัดามาตุในวันที่ 12 สิงหาคมพ.ศ. 2534 การสถาปนาพระนามในครั้งนี้จึงมีความหมาย ที่ลึกซึ้งและทรงพลังยิ่งครับโดยสร้อยพระ นามพระวรราชาธินัดาตุ นั้นหมายถึงพระมารดาของพระราชนัดาพระองค์ แรกแห่งพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐนี่จึง เป็นจุดพลิกผันทางจิตวิญญาณของเรื่องเล่า ครับพระองค์ท่านทรงก้าวผ่านการสูญเทีย ความสัมพันธ์ส่วนตัวไปได้อย่างสง่างามแต่ กลับได้รับการยืนยันสถานะที่ยิ่งใหญ่และ
ไม่มีวันสั่นคลอนนั่นคือความเป็นแม่ของ พระราชนัดาของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่ รักยิ่งของปวงชนและยิ่งไปกว่านั้นการที่ ยังคงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้านายต่อมาก็ เป็นเครื่องยืนยันว่าการถวายงานรับใช้ แผ่นดินด้วยความมุ่งมั่นมาโดยตลอดนั้น เป็นที่ประจักษ์แก่พระเนตรพระกัน์และเป็น ที่ไว้วางพระราชหฤทัยอย่างที่สุดจากนี้ไป บทบาทของพระองค์ท่านได้ถูกกำหนดใหม่ให้ ชัดชัดเจนยิ่งขึ้นแล้วครับนั่นคือการ อุทิศชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อเป็นผู้ให้ และที่พึ่งให้กับประชาชนตามแนวทางที่ทรง ได้เรียนรู้มาอย่างหนักหน่วงในช่วงก่อน หน้านั้นการสู้ชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดใน
ด้านความสัมพันธ์ได้จบลงแล้วแต่การสู้ ชีวิตในฐานะนักสังคมสงเคราะห์ที่แท้จริง กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มตัวครับตอน ที่ 7 ธันบัตร 20 บาทกำเนิดแห่งอาสาเมื่อ พระองค์ท่านได้รับสถาปนาเป็นพระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระ วรราชาธินัดาตุ ซึ่งการยืนยันสถานะแห่งความแม่และสาย สัมพันธ์ที่ไม่ขาดสะบั้นนับจากนั้นเป็น ต้นมาภารกิจในพระชนีพของพระองค์ท่านก็ได้ มุ่งเน้นไปที่การอุทิศตนเพื่อสังคมอย่าง เต็มรูปแบบโดยไม่มีสิ่งใดมากีดขวางครับ การถวายงานรับใช้ที่เคยทำมาอย่างหนัก หน่วงในตอนก่อนได้กลายเป็นพันธกิจหลักของ พระองค์ท่านอย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งงานด้านบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย ธรรมชาติซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้อง ทรงจัดการอย่างรวดเร็วและแล้วฉากสำคัญ แห่งแรงบันดาลใจที่จะถูกจารึกไว้ใน ประวัติศาสตร์ก็ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ ประเทศไทยประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่นั่น คืออุทกภัยที่สร้างความเสียหายอย่างแสน สาหัสครับพระองค์ท่านทรงไม่รอช้าที่จะ เสด็จลงพื้นที่ด้วยพระองค์เองเพื่อบรรเทา ทุกขประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่าง แสนสาหัสและสิ้นหวังครับภาพของผู้คนที่ ต้องยืนแช่น้ำผู้คนที่สูญเสียทรัพย์สิน และความสิ้นหวังที่ปกคลุมพื้นที่ประสบภัย คือสิ่งที่พระองค์ท่านได้ประจักษ์แก่พระ
เนตรอย่างใกล้ชิดและซึมซับรับรู้ถึงความ ทุกข์ยากเหล่านั้นท่ามกลางความทุลักทุเล ของการช่วยเหลือและการให้กำลังใจประชาชน ในพื้นที่ประสบภัยนั่นเองความยิ่งใหญ่ของ หัวใจมนุษย์ที่เสียสละก็ได้ปรากฏต่อหน้า พระพักของพระองค์ท่านอย่างน่าอัศจรรย์ ครับมีฉากที่ทรงพลังอย่างยิ่งที่พระองค์ ท่านเคยรับสั่งถึงนั่นคือการที่ทรงได้รับ ธนบัตรใบละ 20 บาทที่เปรียกโชคน้ำจากมือ ของชาวบ้านผู้ยากร้ายคนหนึ่งที่ยืนรอคอย การช่วยเหลือชาวบ้านผู้นั้นยืนยันที่จะขอ ถวายเงินจำนวนนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้วยกันเองทั้งที่ตนเองก็กำลังเดือดร้อน อย่างหนักนี่คือจุดคลายทางอารมณ์ของตอน
นี้เลยครับพระองค์ท่านทรงถามด้วยความแปลก พระทัยและทราบสิ้นใจว่าเหตุใดจึงไม่เก็บ เงินจำนวนนี้ไว้ใช้เหลือตัวเองก่อนแต่ชาว บ้านผู้นั้นก็ยังยืนยันคำเดิมอย่างเด็ด เดี่ยวและบริสุทธิ์ใจเงินเพียง 20 บาทที่ เปียกโชคนี้จึงไม่ได้มีมูลค่ามากมายในทาง วัตถุหากแต่มีมูลค่าทางจิตวิญญาณ ที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะประเมินได้ครับมัน เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตาที่ไม่สิ้นสุด และการเสียสละอันบริสุทธิ์ของประชาชนชาว ไทยที่มีต่อกันแม้ในยามที่ตนเองทุกข์ยาก ที่สุดด้วยเหตุนี้ธนบัตรเปียกโชคใบนั้น จึงได้กลายเป็นแรงบันดาลใจอัน ศักดิ์สิทธิ์ที่จุดประกายและกำหนดทิศทาง
การทำงานเพื่อสังคมของพระองค์ท่านไปตลอด กาลครับพระองค์ท่านทรงตระหนักว่าภารกิจ ของพระองค์คือการเป็นตัวกลางที่จะรวบรวม ความเมตตาและการให้นี้ไว้ส่งต่อและขยายผล ให้ความช่วยเหลือไปถึงมือผู้เดือดร้อน อย่างรวดเร็วและครบวงจรที่สุดจึงเป็นที่ มาของการก่อตั้งมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งพา ยามยากสภากาชาติไทยโดยทรงดำรงตำแหน่งนายก กิตติมศักดิ์ตลอดชีพการก่อตั้งมูลนิธินี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การสร้างองค์กรการกุศล แต่เป็นการเปลี่ยนความเจ็บปวดส่วนตัวที่ ทรงเคยเผชิญการสู้ชีวิตกับความกดดันในตอน ก่อนหน้าให้กลายเป็นพลังงานแห่งการให้ที่ มั่นคงและยั่งยืนโดยมีธนบัตร 20 บาทเป็น
เหมือนศิลาจารึกแห่งการอาสาที่อยู่คู่กับ แผ่นดินตราบจนปัจจุบันครับตอนที่ 8 แสง สว่างแด่ผู้ถูกทอดทิ้งหลังจากที่มูลนิธิ อาสาเพื่อนพึ่งพายามยากได้ถูกก่อตั้งขึ้น ด้วยแรงบันดาลใจอันบริสุทธิ์จากธนบัตร 20 บาทในตอนที่ 7 แล้วนั้นพระองค์ท่านก็ทรง ขยายขอบเขตพระกรณียกิจออกไปสู่กลุ่มผู้ เปราะบางและผู้ที่ถูกทอดทิ้งจากสังคม อย่างแท้จริงครับภารกิจในช่วงนี้จึงเต็ม ไปด้วยดราม่าเชิงศีลธรรมและแสดงให้เห็น ถึงความเมตตาที่ไม่แบ่งแยกของพระองค์ท่าน อย่างชัดเจนครับภารกิจที่โดดเด่นและสำคัญ ที่สุดคือการเป็นแสงสว่างให้แก่ผู้ติด เชื้อสและครอบครัวในยุคที่โลกนี้ยังเป็น
ที่หวาดกลัวและถูกตีตราจากสังคมอย่าง รุนแรงครับด้วยเหตุนี้พระองค์ท่านจึงทรง เป็นผู้ริเริ่มและให้การอุปถัมภโครงการ สำคัญของสภากาชาติไทยหลายโครงการอย่างต่อ เนื่องเช่นโครงการช่วยลดการติดเอดสจากแม่ สู่ลูกและกองทุนยาพระวรรราชาธินัดมาาตุ สำหรับผู้ติดเชื้อเอดสซึ่งเป็นงานที่ต้อง ใช้ความกล้าหาญในการเข้าถึงและคลุกคลีกับ ผู้ป่วยโดยตรงอย่างแท้จริงครับลอง จินตนาการถึงฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับความ จริงอันโหดร้ายของโรคระบาดนะครับพระองค์ ท่านไม่ทรงรังเกียจที่จะเสด็จไปเยี่ยมผู้ ป่วยถึงข้างเตียงมอบกำลังใจและให้ความ ช่วยเหลือทางการแพทย์แก่กลุ่มแม่ที่ติด
เชื้อและบุตรอย่างต่อเนื่องการทรงงานนี้ ได้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย อย่างเห็นได้ชัดและที่สำคัญที่สุดคือช่วย ลดอคติของสังคมที่มีต่อผู้ติดเชื้อลงได้ อย่างมหาศาลทำให้พวกเขาเหล่านั้นรู้สึก ว่ายังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนอกจากนี้พระ องค์ท่านยังทรงขยายงานสังคมสงเคราะห์ไป สู่กลุ่มสตรีและเด็กที่ประสบปัญหาความ ทุกข์ยากเดือดร้อนอีกด้วยทรงเป็นองค์ อุปถัมภ์มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของศาล เยาวชนและครอบครัวและสมาคมส่งเสริม สถานภาพสตรีบ้านพักฉุกเฉินซึ่งเป็นสถาน ที่ให้ความปลอดภัยและที่พักพิงแก่ผู้หญิง และเด็กที่หนีภัยความรุนแรงครับการทรงงาน
อย่างต่อเนื่องยาวนานในบ้านพักฉุกเฉินนี้ จึงแสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านคือที่พึ่ง แห่งความมั่นคมสำหรับผู้ที่ขาดที่ยึด เหนี่ยวในชีวิตอย่างแท้จริงและสิ่งที่ สะท้อนถึงความเมตตาที่บริสุทธิ์ที่สุดคือ เรื่องราวส่วนพระองค์ครับพระองค์ยังทรง อุปการะศิรพัชชราโสภัชรมณีหรือใบพลูไว้ใน พระอุปถัมภ์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กพระ องค์ท่านทรงกล่าวถึงศิรพัชราอย่างอบอุ่น ว่าพระองค์หญิงเลี้ยงเขาเป็นลูกอีกคนการ กระทำนี้เป็นการยืนยันถึงความรักและความ เมตตาที่แผ่ขยายออกไปไร้เงื่อนไขโดยไม่ จำกัดอยู่แค่สายเลือดหรือสถานะทางสังคม เลยแม้แต่น้อยการทรงงานในตอนที่ 8 นี้จึง
ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของพระองค์ท่านอย่าง สมบูรณ์จากเจ้านายผู้ต้องรับมือกับวิกฤต ความกดดันส่วนตัวในอดีตมาเป็นพระแม่ผู้ เปี่ยมเมตตาที่โอบอุ้มและไม่ทอดทิ้งผู้ ถูกทอดทิ้งที่สุดในสังคมการต่อสู้ของพระ องค์ท่านไม่เพียงแต่เอาชนะความทุกข์ของ ตัวเองได้แล้วแต่ยังเป็นพลังให้ผู้อื่นมี ชีวิตอยู่ต่อไปได้ความหวังครับความทุ่มเท ทั้งหมดนี้นำไปสู่การได้รับการยกย่องเชิด ชูพระเกียรติครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งเป็น บทสรุปแห่งความภาคภูมิใจในตอนสุดท้ายครับ ตอนที่ 9 มรดกแห่งเมตตาสู่กรมหมื่น สุทธนารีนาถ ในที่สุดการต่อสู้การเสียสละและความเมตตา
ที่ทรงสั่งสมมาด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ก็ได้รับการเชิดชูพระเกียรติอย่างสมบูรณ์ ตามโบราณราชประเพณีครับนั่นคือในพระ ราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าสถาปนาพระ อิสริยยศพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า โสมสวลีพระวรราชาธินัดาตุ ขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายในมีพระ นามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัตรว่าพระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีกรมหมื่น สุทธนารีนาถ การสถาปนาพระอิสริยยศสูงสุดนี้จึงเป็นการ ยืนยันถึงชัยชนะทางจิตวิญญาณของพระองค์ ท่านอย่างเป็นทางการครับและเป็นการรับรอง
ว่าพระองค์ท่านคือเจ้านายฝ่ายในผู้ทรง คุณธรรมและเป็นที่พึ่งของปวงชนชาวไทยยัง ไม่มีข้อกังขาใดๆตลอดพระชนชีพที่ผ่านมา ทุกท่านครับสำหรับพระชนมชีพในปัจจุบันณปี พุทธพศักราช 256 พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีกรม หมื่นสุทธนารีนาถทรงมีพระชันษา 68 ปีครับ พระองค์ท่านทรงประทับสลับกันระหว่าง วังเทเวชซึ่งเป็นที่ประทับมาตั้งแต่ทรง พระเยาและที่ประทับณคอนโดมิเนียมใจกลาง เมืองเพื่อความสะดวกในการดำเนินพระ กรณียกิจและดูแลพระอนามัยแม้ว่าจะทรงมี ปัญหาด้านพระอนามัยอยู่บ้างในช่วงหลังตาม วัยแต่โดยรวมแล้วพระองค์ท่านยังทรงแข็ง แรงดีและทรงมีพระกำลังใจที่เข้มแข็งอย่าง
ยิ่งครับพระองค์ท่านยังคงทรงปฏิบัติพระ กรณียกิจที่สำคัญได้อย่างต่อเนื่องเท่า ที่พระอนามัยจะเอื้ออำนวยพระองค์ท่านยัง คงทรงใช้ชีวิตอย่างที่พระองค์โปรดครับโดย มีงานอดิเรกที่โปรดปรานอย่างการทำพระ กยาหารและการถักneedติ้งเป็นสิ่งที่ช่วย ให้ทรงผ่อนคลายและทรงมีความสุขอยู่เสมอ ครับนอกจากนี้ยังทรงเป็นพระมารดาและผู้ปก ครองที่เปี่ยมด้วยความเมตตาให้กับ ศิรพัชราโสภัชรมณีหรือใบพลูที่ทรงอุปการะ ไว้ในพระอุปถัมภ์ซึ่งสะท้อนถึงความรักที่ ไม่จำกัดขอบเขตพระชนีพของพระเจ้าวรวงศ์ เธอพระองค์เจ้าโสมศวลีกรมหมื่น สุทธนารีนาถสอนให้เราเข้าใจว่าเกียรติยศ
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ไม่ได้วัดกัน ที่ตำแหน่งที่ได้รับแต่คือความสามารถใน การก้าวผ่านความทุกข์ส่วนตัวแล้วใช้มัน เป็นพลังในการโอบอุ้มผู้อื่นพระองค์ท่าน ทรงเคยอยู่บนเส้นด้ายแห่งความกดดันสูญ เสียด้วยความเครียดและเผชิญกับการเปลี่ยน ผ่านครั้งใหญ่แต่ทุกๆความเจ็บปวดที่เกิด ขึ้นไม่ได้ทำให้พระองค์ท่านปิดกั้นหัวใจ กลับกันมันยิ่งทำให้พระองค์เข้าใจความ เปราะบางของมนุษย์อย่างลึกซึ้งจากความ เจ็บปวดที่เกิดจากการสูญเสียพระโอรสแปร เปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นที่จะไม่ทอดทิ้ง เด็กคนอื่นๆที่ติดเชื้อจากความโดดเดี่ยว หลังวิกฤตความสัมพันธ์แปรเปลี่ยนเป็นความ
เด็ดเดี่ยวในการสร้างมูลนิธิอาสาเพื่อน พึ่งพาให้เป็นที่พึ่งของปวงชนและทั้งหมด นี้สรุปได้ว่าความเมตตาที่แท้จริงคือการ ที่บุคคลผู้หนึ่งสามารถยืนหยัดอย่างสง่า งามได้ท่ามกลางมรสุมชีวิตของตนเองและยัง คงเหลือพลังใจมากพอที่จะก้งลงไปประคองผู้ ที่กำลังล้มอยู่ให้ลุกขึ้นมาได้พระพระ องค์ท่านคือสัญลักษณ์ที่แท้จริงของการสู้ ชีวิตการสู้ชีวิตที่จบลงด้วยใช้ชนะแห่ง หัวใจครับขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงที่ ได้กรุณาติดตามเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ใน ซีรียส์น้ำผึ้งพระจันทร์แห่งการสู้ชีวิต มาจนถึงบทสรุปนี้ครับผมรู้สึกเป็นเกียรติ และภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำ
เสนอพระประวัติอันเปี่ยมด้วยการสู้ชีวิต และพระเมตตาของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์ เจ้าโสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนาถให้ทุก ท่านได้รับฟังกันครับหากมีข้อผิดพลาด ประการใดทั้งในการใช้ภาษาหรือการบรรยาย ที่อาจติดขัดไปบ้างผมต้องขอกราบอภัยมาณ ที่นี้ด้วยนะครับและขอสัญญาว่าจะพยายาม ปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไป เรื่อยๆครับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และ พระประวัตินั้นละเอียดอ่อนและมีหลากหลาย มิติครับบางเรื่องอาจแตกต่างไปจากสิ่งที่ ทุกท่านเคยได้รับทราบมาบ้างจึงขอให้ทุก ท่านโปรดใช้วิจารณญาณในรับชมด้วยนะครับ การเรียนรู้ในมุมมองที่แตกต่างกันนั้นไม่
ใช่เรื่องผิดพลาดเลยครับถ้าทุกท่านชื่น ชอบเรื่องราวการสู้ชีวิตที่งดงามแบบนี้ก็ อย่าลืมกดไลค์กดแชร์และที่สำคัญที่สุดคือ กดติดตามช่อง Infinity F ของเราเพื่อ เป็นกำลังใจให้กับทีมงานทุกคนที่ทุ่มเท ค้นควายอย่างเต็มที่ครับหากมีข้อคิดเห็น หรือคำติชมประการใดสามารถคอมเมนต์มาได้ เลยนะครับผมยินดีน้อมรับทุกความเห็นเพื่อ นำไปปรับปรุงงานในครั้งต่อไปครับก่อนจาก กันในวันนี้ผมขอฝากให้ทุกท่านรักษาสุขภาพ ครับช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยขอให้ทุก ท่านดูแลตัวเองดีๆนะครับผมขอลาทุกท่านไป กับเรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ นี้เจอกันใหม่คลิปหน้าสวัสดีครับ
