เรื่อง เล่า พื้น บ้าน การ แข่ง ขัน สร้าง ปราสาท ระหว่าง หญิง กับ ชาย ที่ ปราสาท หิน พิมาย และ ปราสาท หิน พนมวัน ครั้ง หนึ่ง นาน มา แล้ว เหล่า ผัว เมีย ที่ เคย อยู่ ด้วย กัน อย่าง สงบ สุข เกิด ความ บาด หมาง ไม่ เข้า ใจ กัน จน เกิด เป็น การ ทะเลาะ กัน บ่อย ครั้ง ผู้ ชาย ชอบ วาง อำนาจ ถือ ว่า ตัว มี ร่าง กาย กำยำ กำลัง ที่ แข็ง แรง กว่า ทำ ตัว เป็น เจ้า นาย ใน ครัว เรือน เอา เปรียบ ผู้ หญิง อยู่ เสมอ เหล่า ผู้ หญิง จึง มา รวม ตัว เพื่อ ปรึกษา กัน ครั้น จะ ลง โทษ ไม่ ให้ ฝ่าย ชาย เข้า บ้าน ไม่ ให้ ร่วม หลับ นอน ด้วย ก็ กลัว ว่า
จะ ถูก ใช้ กำลัง บังคับ ซึ่ง ใน สมัย นั้น ยัง ไม่ มี พรบ. ข่ม ขืน กระทำ ชำเรา ภรรยา ของ ตน เอง โดย ไม่ ยิน ยอม ก็ อาจ จะ พระ ท่า เสีย ที ได้ แถม อาจ จะ กลาย เป็น กระสอบ ทราย อย่าง ไม่ มี เหตุ ผล เผลอ ๆ ก็ ใช้ เป็น เหตุ อ้าง ไป หา กิ๊ก เพิ่ม เติม ครั้น จะ ไม่ ยอม ทำ อาหาร ให้ ผู้ ชาย ก็ คง ออก ไป หา กิน เอง ได้ ตาม ไร่ นา ปาก เขา ไอ้ ที่ จะ เดือด ร้อน ก็ คง เป็น ลูก เล็ก เด็ก แดง ที่ ไม่ รู้ อิโนอิเน จะ พา กัน อด อยาก ไป ด้วย เมื่อ อด รน ทน ไม่ ไหว เหล่า หญิง ใน หมู่ บ้าน จึง รวม ตัว กัน ประกาศ เพราะ ประลอง กำลัง ท้า ทาย ฝ่าย ชาย ด้วย การ แข่ง ขัน
สร้าง ปราสาท หิน ฝ่าย ชาย ผู้ โอหัง ก็ รับ คำ ท้า โดย ทั้ง 2 ฝ่าย ต่าง กรีด เลือด สาบาน ว่า ถ้า หาก ฝ่าย ของ ตน พ่าย แพ้ ก็ จะ ยอม เป็น เบี้ย ล่าง เป็น ทาส ให้ ใช้ งาน เหมือน วัว เหมือน ควาย แต่ หาก ฝ่าย หญิง เป็น ฝ่าย แพ้ ก็ จะ ต้อง เป็น นาง ทาส ประจำ บ้าน ให้ โขก ให้ สับ กัน ไป ตลอด กาล โดย ตกลง กัน ว่า ถ้า ฝ่าย ใด สร้าง ปราสาท หิน เสร็จ ก่อน ต้อง ส่ง สัญญาณ โดย ปล่อย โคม ไฟ ให้ ลอย ขึ้น สู่ ท้อง ฟ้า ให้ อีก ฝ่าย หนึ่ง เห็น กลุ่ม หญิง รู้ ตัว ดี ว่า ศึก สร้าง ปราสาท แข่ง กับ ชาย ใน ครั้ง นี้ ใหญ่ หลวง นัก จึง ขอ แยก ออก ไป สร้าง
ปราสาท ใน ที่ ไกล บ้าน โดย อ้าง เหตุ ผล ว่า ถ้า ผู้ ชาย อยู่ ใกล้ จะ ทำ ให้ เสีย เปรียบ เพราะ จะ ได้ ยิน คำ นินทา ถาก ถาง ว่า ร้าย ข่ม ขู่ ดู แคลน จะ พลาน ทำ ให้ เสีย สมาธิ ฝ่าย ชาย ก็ รีบ ตกลง เป็น มั่น หมอ เพราะ คง อยาก จะ รีบ แข่ง ขัน ให้ เสร็จ สิ้น ไป โดย เร็ว จะ ได้ มี ค่า ทาส เอา มา ใช้ ให้ หนำ ใจ ฝ่าย หญิง จึง ระดับ นมพล ตั้ง แต่ เด็ก ยันต์ แก่ กัน ทั้ง หมู่ บ้าน เดิน ทาง ไป ยัง เมือง วิมาย ปุระ แล้ว ก็ เริ่ม สร้าง ปราสาท หิน ขึ้น อย่าง ใหญ่ โต มโหาน ฝ่าย ชาย ที่ อยู่ ใน หมู่ บ้าน รัตนปุระ ก็ เร่ง สร้าง ปราสาท หิน ที่
มี ขนาด เล็ก กว่า เพราะ ไม่ รู้ จะ สร้าง ใหญ่ ไป เพื่อ อะไร เพราะ ไม่ ได้ ตกลง เรื่อง ขนาด กัน เอา ไว้ เพียง ยก แรก ฝ่าย ชาย ก็ เป็น ต่อ หลาย ขุม เพราะ ผู้ หญิง ทำ อะไร ก็ คิด มาก ชอบ คิด เล็ก คิด น้อย ไม่ ประมาณ ตัว ไม่ ชอบ วาง แผน เลย คิด กัน ว่า จะ สร้าง ปราสาท หิน ให้ ออก มา ใหญ่ โต กว่า พวก ผู้ ชาย ฝ่าย หญิง ละเมียด ละไม ใน การ แกะ สลาก ประดิษฐ์ ประดอย ส่วน ฝ่าย ชาย ก็ สร้าง ไป ก็ เรียง หิน ขึ้น ไป แบบ ลูก ๆ กะ ว่า ให้ ถึง ยอด ก่อน แล้ว ค่อย กลับ มา แกะ สลัก ลวด ลาย กัน ที หลัง เวลา ผ่าน ไป หลาย ปี ปราสาท หิน ของ ฝ่าย ชาย
ก็ สร้าง เรียง ขึ้น ไป จน ถึง ส่วน ยอด จึง เริ่ม แก่ สลัก กลุ่ม บัว ยอด ปราสาท ให้ สวย งาม เป็น อันดับ แรก เอา ฤกษ์ เอา ชัย ประกาศ ศักดา ขุม ขวัญ ซึ่ง ก็ ได้ ผล ฝ่าย หญิง เห็น ยอด ปราสาท ที่ ฝ่าย ชาย ก่อ ขึ้น มา ก็ ให้ ตก ใจ เสีย ขวัญ กัน ไป ยก ใหญ่ ก็ พวก ผู้ ชาย เขา ร่วม มือ ร่วม ใจ กัน งาน นี้ พวก เรา ไม่ รอด อย่าง แน่ นอน แต่ ใน หมู่ ของ สตรี ก็ มี สติ ปัญญา เป็น อาวุธ หลาย เล่ม เกวียน พวก เธอ จึง ปรึกษา กัน ว่า เรา พลาด กัน มา แล้ว ที่ ก่อ ปราสาท ให้ ใหญ่ จน เกิน ตัว ฝ่าย ชาย อีก ไม่ กี่ เดือน ก็ คง จะ สร้าง เศษ จึง พา กัน คิด ออก
อุบาย มัด โครง ไม้ ไผ่ ขึ้น เป็น ปราสาท ห่อ หุ้ม ด้วย ผ้า ขาว วาด สี ลวด ลวด ลาย เหมือน จริง ไป บน ผ้า ทำ ให้ ดู เป็น ปราสาท หิน สี ขาว มอง เห็น ได้ อย่าง เด่น ชัด มา แต่ ไกล แล้ว รีบ ปล่อย โคม ไฟ ลอย ขึ้น บน ท้อง ฟ้า ใน ค่ำ คืน นั้น ยัง ไม่ พอ ฝ่าย หญิง ยัง จัด งาน เฉลิม ฉลอง จุด ปลุ ไฟ สว่าง ไสว ส่ง เสียง แตร ดนตรี ประโคม ดัง สนั่น แล้ว มา เต้น ฟ้อน รำ กัน ที่ ลาน หน้า ปราสาท เป็น ที่ สนุก สนาน เพื่อ ให้ ดู สม จริง สม จัง ฝ่าย ชาย เห็น คม รอย และ เสียง ดนตรี งาน ฉลอง ก็ ยัง ไม่ ปัก ใจ เชื่อ นัก จึง ส่ง หนุ่ม น้อย หน้า มนต์ มา
เป็น สปาย แอบ ย่อง ไป ดู ฝ่าย หญิง ว่า สร้าง ปราสาท เสร็จ แล้ว จริง หรือ ชาย หนุ่ม วัย ละ อ่อน ก็ แอบ ล่อง เรือ ขึ้น มา ถือ โอกาส นี้ มา หา สาว คน รัก ที่ ต้อง แยก กัน มา นาน เพราะ ต่าง คน ต้อง มา ช่วย ฝ่าย ของ ตัว เอง ใน การ แข่ง ขัน หนุ่ม มา เจอ สาว เป็น ยาม ที่ ประตู เมือง อยู่ พอ ดี ถึง เข้า ไป โอบ กอด รัด ฟัด เหวี่ยง ด้วย ความ คิด ถึง หัน ไป เห็น ปราสาท ขาว แตก ไกล ก็ ยัง ไม่ เชื่อ สนิท ใจ ถึง คิด จะ เดิน เข้า ไป ดู ใกล้ ๆ แต่ สาว เจ้า ผู้ เป็น ที่ รัก และ คิด ถึง ก็ ได้ ขัด ขวาง ไว้ โดย พิศวาท โอ้โลม ให้ หนุ่ม คน รัก
เชื่อ สนิท ใจ ว่า ปราสาท ของ ฝ่าย หญิง สร้าง เสร็จ แล้ว จริง ๆ เมื่อ ความ รัก ของ หนุ่ม สาว ได้ เข้า มา เป็น ตัว แปร ตาม ใน การ แข่ง ขัน ตัว แปร หลัก ก็ ต้อง ผัน แปร ตาม กลุ่ม หนุ่ม น้อย จึง เดิน ทาง กลับ มา ยัง หมู่ บ้าน แล้ว แจ้ง ข่าว กับ หัว หน้า ฝ่าย ชาย ว่า ปราสาท ฝ่าย หญิง สร้าง เสร็จ แล้ว ตาม ที่ ได้ ให้ สัญญาณ โคม ลอย แล้ว จริง ๆ เมื่อ ฝ่าย ชาย ผู้ เข้ม แข็ง ได้ ยิน ดัง นั้น ก็ เหมือน ฟ้า ผ่า ลง มา กลาง กระหม่อม มือ ไม้ อ่อน ระทวย รวย แรง ลง ด้วย เพราะ สิ้น กำลัง ใจ และ กำลัง กาย ด้วย เพราะ ต้อง มา พ่าย แพ้ ต่อ
ฝ่าย หญิง จึง หัน หน้า ไป หา ไห เล่า อุตสาโท มา ดื่ม เพื่อ ย้อม ใจ ไหน ๆ ก็ จะ ต้อง กลาย ไป เป็น ขี้ ฆ่า ภรรยา ตัว เอง ตาม ที่ สาบาน กัน ไว้ ศักดิ์ ศรี และ ความ หยิ่ง ทรนง ตาม นิสัย ชาย ได้ มลาย หาย ไป จน สิ้น ช่าง ชาย บาง คน ก็ ยัง คง แก่ สลัก แบบ ไว้ ลาย ตาม ทัพ หลัง ไม่ ยอม หยุด ด้วย ไม่ เชื่อ หู ตัว เอง แต่ ส่วน ใหญ่ ก็ หยุด จุด สร้าง และ ไม่ คิด จะ แกะ สลัก กัน ต่อ ไป อีก แล้ว หลาย คน ประชด ประชัน ด้วย การ ขึ้น ไป รื้อ หิน ที่ สร้าง ขึ้น ไป แล้ว ผัง มัน ลง มา ซะ เลย ไหน ๆ ก็ แพ้ แล้ว นี่ หว่า เมื่อ ไม่ มี การ แข่ง ขัน แล้ว
กลุ่ม หนุ่ม น้อย ก็ พา เพื่อน ชาย รีบ ไป หา คน รัก ที่ เมือง วิมาย ปุระ หลัง จาก ทำ ใจ ยอม แพ้ แต่ เมื่อ ไป ถึง ก็ พบ ว่า ฝ่าย หญิง ยัง สร้าง ปราสาท ไม่ เสร็จ ใน ที แรก ก็ คง คิด จะ โกรธ แต่ ก็ โกรธ ไม่ ลง แล้ว จะ โกรธ ไป เพื่อ อะไร ใน เมื่อ คน ที่ พวก เขา รัก ทั้ง แม่ น้อง สาว และ คน รัก ต่าง ก็ ต้อง มา โตรกรรม ลำบาก สร้าง ปราสาท แข่ง ขัน เพียง เพื่อ ต้องการ ให้ ชาย รู้ สึก สำนึก ว่า ควร จะ ให้ เกียรติ ดู แล ทนุ ถนอม เอา ใจ ใส่ พวก เธอ บ้าง ซึ่ง ก็ ไม่ ใช่ เรื่อง ที่ ผู้ ชาย ไม่ อยาก จะ ทำ แต่ ก็ คง หลง ลืม ไป เยอะ บ้าง หลัง จาก
ได้ อยู่ กิน เป็น ผัว เมีย มา นาน จน เคย ตัว เพื่อ ไม่ ให้ เหล่า ชาย ผู้ ใหญ่ ที่ ยัง คง ระทม อยู่ ที่ รัตนปุระ ต้อง มา รับ รู้ ว่า โดน ฝ่าย หญิง หลวง ชาย หนุ่ม ทั้ง หลาย เลย ตัด สิน ใจ มา ช่วย เหล่า หญิง คน รัก สร้าง ปราสาท หิน ใหญ่ จน สำเร็จ มิ ให้ เหล่า คน รัก ของ ตน จะ ต้อง ผิด คำ สัต สาบาน กลาย เป็น ปราสาท ที่ มี ลวด ลาย แก่ สลัก งด งาม ไป ทุก ส่วน เป็น ดัง อนุสรณ์ แห่ง ความ รัก และ ความ เข้า ใจ ที่ กลับ คืน มา ของ หญิง และ ชาย ใน ขณะ ที่ ปราสาท หิน แห่ง รัตนปุระ ถูก ทิ้ง ให้ พัง ทลาย ไม่ สมบูรณ์ เป็น สร้าง แห่ง
อดีต ของ ความ ขัด แย้ง และ ความ ไม่ เข้า ใจ กัน เมื่อ ความ เข้า ใจ กลับ คืน มา เหล่า ชาว บ้าน รัตนุระ จึง ยอม ยอม รับ ผิด ไม่ คิด โกรธ เคือง ใน อุบาย เล่ม ที่ 101 ของ ฝ่าย หญิง ที่ ทำ ไป เพราะ อยาก จะ สอน ให้ พวก เขา เป็น ชาย สมชาย และ ที่ สำคัญ ความ รัก และ ความ คิด ถึง เมื่อ ยาม ต้อง ห่าง ไกล กัน ของ ทั้ง 2 ฝ่าย คง ได้ ช่วย ละลาย ความ บาด หมาง ที่ มี อยู่ ใน ใจ จน มาลาย หาย ไป จน สิ้น ปราสาท หิน พนมวัน จึง หยุด สร้าง และ ไม่ เคย สร้าง ต่อ นับ แต่ วัน ที่ ความ รัก ได้ กลับ คืน มา สู่ บ้าน รัตนปุระ อัน อบ อุ่น ตั้ง
แต่ นั้น มา ปราสาท หิน พนมวัน เป็น ปราสาท หิน ที่ มี ขนาด ใหญ่ เป็น อันดับ 5 ของ ประเทศ ไทย สร้าง ขึ้น ครั้ง แรก ใน ราว พุทธศตวรรษ ที่ 15 ใน สมัย เกาะ แก บ่า แข่ง เป็น ปราง 5 หลัง แล้ว มา ถูก สร้าง ทัพ ใน ยุค ใกล้ เคียง กัน อีก รวม เป็น อาคาร อิฐ ทั้ง หมด 10 หลัง ทาง ด้าน ทิศ ตะวัน ออก มี บาราย หรือ สระ น้ำ ขนาด ใหญ่ ประจำ ชุม ชน เรียก ว่า สระ เพลง ใน ปัจจุบัน ก็ ยัง คง ใช้ ประโยชน์ ได้ อยู่ ใน เขต ที่ ดอน ของ เมือง เป็น ที่ ตั้ง ของ ชุม ชน โบราณ มา ตั้ง แต่ สมัย ก่อน ประวัติศาสตร์ เพราะ บังเอิญ ใน ตอน ขุด
ค้น เมื่อ ประมาณ ปี 2533 ก็ ได้ พบ กับ โครง กระดูก มนุษย์ ใต้ ฐาน ปราสาท ประธาน ที่ มี ร่อง รอย ของ พิธีกรรม การ ฝัง ศพ แบบ ตั้ง ใจ ฝัง ไม่ ใช่ การ ฆาตกรรม ซึ่ง คง ไม่ มี ใคร ไป ตาม จับ ฆาตกร เพราะ คง ตาย ไป นาน แล้ว เหมือน กัน โครง กระดูก ประมาณ ว่า อายุ ใน ราว 2,000-2500 ปี โดย ดู จาก ภาชนะ ขัด มัน ดำ ที่ เขา เรียก กัน อย่าง กิ๊บเก๋ ว่า ภาชนะ แบบ พิมาย ดำ ที่ ถูก นำ มา ฝัง รวม อยู่ กับ ศพ ตาม ความ เชื่อ เพื่อ ให้ ผู้ ตาย นำ เอา ไป ใช้ ใน โลก หน้า ชุม ชน โบราณ พนมวัน มี เส้น ทาง น้ำ เชื่อม ต่อ ไป ยัง ลำ น้ำ
ขนาด ใหญ่ มา นาน แล้ว แต่ ปัจจุบัน ขนาด ของ ลำ น้ำ ก็ ลง ไป มาก ลำ น้ำ นี้ แหละ คือ ถนน มิตรภาพ โบราณ ที่ เชื่อม ชุม ชน เมือง พนมวัน กับ ชุม ชน เมือง พิมาย เข้า ด้วย กัน
